สวัสดีคะ ^/\^ บริษัทเอ็กซ์เท็นไลฟ์ได้รับการร้องขอจากองค์กรการค้าและผู้ประกอบการแห่งประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Trade and Enterprise; NZTE) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลในประเทศนิวซีแลนด์ โดยทางหน่วยงานต้องการพิจารณาข้อมูลผลิตภัณฑ์กีวีฟรุ๊ต เพื่อเข้าจำหน่ายในรูปแบบของยาในเมืองนิวยอร์ก ทางบริษัทอยากให้ลูกค้าได้มีโอกาสรับรู้ถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าสนใจในผลิตภัณฑ์ กีวีฟรุ๊ตผ่านเรื่องราวสั้น ๆ ที่ได้จัดเตรียมสำหรับการพิจารณาขององค์กรดังกล่าวนี้ โดยนำมาจัดทำเป็นบทความให้ลูกค้าได้อ่านในโอกาสนี้ด้วย
นับตั้งแต่การก่อตั้งของ Xtend – Life เกือบ 12 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้ตระหนักมาโดยตลอดว่า สุขภาพของระบบการย่อยอาหารที่ดี คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพองค์รวม ไม่เพียงแต่คุณประโยชน์ในแง่ของการย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการป้องกันการสะสมของสารอาหารโมเลกุลใหญ่จากการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ และก่อให้เกิดสารพิษตกค้างที่อาจซึมเข้าสู่กระแสเลือด อันจะส่งผลต่อสุขภาพองค์รวม แต่ยังให้ประโยชน์ในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่เรารับประทาน และจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวอื่นอีกด้วย
นอกจากผลิตภัณฑ์โททัลบาลานซ์ที่จัดเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพของเอนไซม์ และสารอาหารที่ช่วยในระบบการย่อยอาหาร เรายังตระหนักดีว่า ควรมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมระบบการย่อยอาหารโดยตรง เนื่องมาจากยังคงมีข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพของการเสริมอาหารด้วยโปรไบโอติกที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ทั่วไปในท้องตลาดว่า จุลินทรีย์ที่เสริมเข้าไปนี้จะส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ตามธรรมชาติในลำไส้หรือไม่ เพราะจากการศึกษาพบสายพันธ์ของโปรไบโอติกส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นสายพันธ์ของจุลินทรีย์ตามธรรมชาติในลำไส้ ข้อสงสัยนี้จึงนำไปสู่ความตั้งใจของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพลำไส้อย่างแท้จริง กล่าวคือ มีคุณประโยชน์เหนือกว่าการเสริมอาหารด้วยโปรไบโอติกทั่วไป
กีวีฟรุ๊ตจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นผลไม้ที่ได้รับการยอมรับถึงคุณสมบัติในการส่งเสริมระบบการย่อยอาหาร โดยเฉพาะคุณสมบัติของสารที่รวมอยู่ในส่วนของเปลือกกีวี ซึ่งยืนยันโดยงานวิจัยที่ทำให้มนุษย์ (Human clinical Studies) นอกจากส่วนประกอบที่เป็นเอนไซม์สำคัญแล้ว ยังประกอบไปด้วยพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของโปรไบโอติก และยังสามารถยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ที่ก่อโรคในลำไส้ โดยคุณค่าทั้งหมดนี้ ร่างกายจะได้รับด้วยการบริโภคผลิตภัณฑ์กีวีฟรุ๊ตเพียง 1 แคปซูล นอกจากนี้สิ่งสำคัญยังอยู่ที่เทคโนโลยีในการสกัดสารของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ กล่าวคือ กระบวนการสกัดด้วยน้ำเย็น 3 ขั้นตอน (Low temperature triple water) ซึ่งจะยังคงคุณค่าของสารสกัด (Key infredients) ของกีวีฟรุ๊ต 2 ชนิดได้สูงสุด
จากคุณสมบัติที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์นี้ เราจึงได้ทำข้อตกลงพิเศษ ให้เราเป็นผู้จำหน่ายสารสกัดตัวนี้แต่เพียงผู้เดียวทั่วโลกในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์ของ Xtend-life สวัสดีคะ ^/\^
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557
ชาร์จแบตเตอรีชีวิต
สวัสดีค่ะ ^/\^ เข้าสูเดือนเมษายนเดือนแห่งการพักร้อน ก่อนจะพักร้อนเรามาฟื้นพลังกันหน่อยไหมคะ
คนที่มีพลังชีวิตสูงนั้นเราจะสังเกตได้จากแววตา ลักษณะท่าทาง และการใช้ชีวิตของท่านได้คะ ผู้ที่มีสิ่งเหล่านี้เรียกว่ามี “คาริสม่า” ของผู้ที่มีความหนุ่มสาวคงกระพันอยู่เสมอ ไม่เผลอตัวไปกับความแก่
แต่เมื่อนานวันเข้าความไม่แน่นอนก็อาจมาเยือนได้ค่ะ เหมือนดั่งที่เราเห็นว่าคนบางคนเปลี่ยนไปมาหลายรอบในชั่วชีวิตเดียวกันนี่เอง
ตอนหนุ่มกระฉับกระเฉงแต่พอมีอายุเริ่มเฉื่อย หรือมีไฟอยู่ตลอดเวลาทว่าพอถึงวัยหนึ่งกลับหมดแรงที่จะจุดไฟให้ตัวเอง
สิ่งเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรมดาของชีวิตค่ะ เพียงแค่ว่าเราต้องรู้ทันมันและรู้จักวิธีที่จะถนอมพลังชีวิตนั้นเอาไว้ เหมือนดังที่เคยเขียนไว้ในตอนก่อนๆ และในบางจัวหวะถนอนอย่างเดียวไม่พออาจต้องขอให้ท่านหาจังหวะ “ชาร์จ” พลังชีวิตให้กับตัวเองด้วย จะช่วยให้ชีวิตไม่ “เปลี่ยนเร็ว”
เพิ่มพลังชีวิตพิชิตแก่
วิธีที่จะชาร์ตแบเตอรีแห่งชีวิตต้องเริ่มจากดูวิถีชีวิตของตัวเราเองก่อน เป็นต้นว่าถ้าต้องนอนดึกแบบไม่เป็นเวลาท่านก็คงต้องหาวิธีที่ช่วยให้สมองได้พักผ่อนเต็มที่ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเทคนิคที่หามานี้รับรองว่า ซุปไก่ยังไม่เท่า เครื่องดื่มชูกำลังชิดซ้าย
1. บีบแขนและเคาะหัว ฟังดูตลกเล็กๆ นะคะ แต่ว่าเป็นเรื่องจริงที่มีการศึกษามาแล้วจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนว่าได้ผล โดยคนที่ทำถูกวิธีจะให้ผลกระตุ้นได้เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟแก้วหนึ่งเลยทีเดียว วิธีทำง่ายๆ คือ กำมืองอนิ้วแล้วเคาะที่กระหม่อมตัวเองเบาๆ คล้ายกับเขกศีรษะนั่นเองค่ะ ส่วนการบีบมือก็คือให้บีบที่ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ซึ่งที่จุดดังกล่าวนี้เป็นจุดสำคัญที่คล้ายกับการฝั่งเข็มคะ
2. สตาร์ทเครื่องให้สมอง โดยการตื่นให้เช้าหน่อยค่ะแล้วพาตัวเองไปอาบแดดอ่อนๆ ตอน 6-7 โมงเช้าสัก 15 นาที เพราะจะทำให้ต่อมสมองมีการทำงานและช่วยในการสร้างวิตามินดีซึ่งจำเป็นสำหรับพลังอารมณ์ค่ะ จะทำให้ท่านรู้สึกตื่นตัวขึ้นและทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงไปทั้งวัน
3. เติมน้ำให้ร่างกาย ท่านทราบไหมว่าคนเราขาดน้ำแค่ 2.6% ของร่างกายก็ทำให้เกิดอาการอ่อนล้าหงุดหงิดได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า
จากการศึกษาในอาสาสมัครพบว่า กลุ่มที่ขาดน้ำทำงานที่ใช้สมองได้ยากกว่ากลุ่มที่ได้ดื่มน้ำอย่างพอเพียงมาก ดังนั้น แค่ขอน้ำเปล่าสัก 2 ลิตรตั้งไว้หน้าโต๊ะทำงานและรับประทานให้หมดในแต่ละวันคงไม่ยากไปสำหรับสมองของเรานะคะ
4. ล้างหน้าให้สดชื่น เป็นวิธีที่ได้ผลทั้งในความเชื่อที่ผ่านมาและการศึกษาโดยให้อาสาสมัครที่งีบไป 20 นาทีได้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ปรากฏว่าเรียกความสดชื่นและตื่นตัวขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าท่านล้างหน้าได้ถูกจังหวะก็จะเหมือนการปลุกเข้าไปถึงสมองให้กะปรี้กะเปร่าขึ้นมาด้วย ท่านที่ไม่สะดวกลุกไปล้างหน้าบ่อยก็อาจใช้ผ้าเย็นซับที่ใต้คอและหลังคอก็สดชื่นได้ไม่แพ้กัน
การชาร์จแบตเตอรีชีวิตทั้งหมดที่ว่ามานี้ขอให้ทำ “ถูกจังหวะ” และที่สำคัญคือ “มีวินัย” ในการหมั่นทำ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่านเสมือนกับได้เติมพลังอย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
หลายคนมาถามดิฉันถึงเรื่องการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นร่างกาย ทั้งที่จริงแล้วการออกกำลังกายไม่เหมาะก็กลับทำให้พลังชีวิตเสื่อมลงได้ค่ะ เหมือนอย่างนักกีฬาที่ฝึกซ้อมหนักจนเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อหายกลายเป็นขยาดการออกกำลัง เกิดความรู้สึกเบื่อไม่มีความกระตือรือร้นในการฝึกต่อได้
เช่นเดียวกับชีวิตที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสชีวิต งานเครียดก็ปล่อยตัวให้เครียดไป นอนดึกก็ปล่อยไปตามสบายเช่นนั้น หรือใครที่รักการสังสันทน์ก็ใช้ชีวิตเป็นปาร์ตี้บอยทุกคืน แม้จะรู้สึกไม่ฝืนเพราะปล่อยไปตามกระแส แต่นั่นจะฉกฉวยพลังชีวิตใน.
หากใครเหนื่อยหลังจากพักร้อนเชิญมาชาร์จพลังตามเทคนิคที่แนะนำกันดูนะคะ สวัสดีค่ะ ^/\^
ขอขอบคุณ
๐ ดร.กรุณา นนทรักส์. (2556, 2 มิถุนายน). เอ็กเซอร์ไซส์อะคาเดมี: ชาร์จแบตเตอรีชีวิต. กายใจ กรุงเทพธุรกิจ, หน้า 11
คนที่มีพลังชีวิตสูงนั้นเราจะสังเกตได้จากแววตา ลักษณะท่าทาง และการใช้ชีวิตของท่านได้คะ ผู้ที่มีสิ่งเหล่านี้เรียกว่ามี “คาริสม่า” ของผู้ที่มีความหนุ่มสาวคงกระพันอยู่เสมอ ไม่เผลอตัวไปกับความแก่
แต่เมื่อนานวันเข้าความไม่แน่นอนก็อาจมาเยือนได้ค่ะ เหมือนดั่งที่เราเห็นว่าคนบางคนเปลี่ยนไปมาหลายรอบในชั่วชีวิตเดียวกันนี่เอง
ตอนหนุ่มกระฉับกระเฉงแต่พอมีอายุเริ่มเฉื่อย หรือมีไฟอยู่ตลอดเวลาทว่าพอถึงวัยหนึ่งกลับหมดแรงที่จะจุดไฟให้ตัวเอง
สิ่งเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรมดาของชีวิตค่ะ เพียงแค่ว่าเราต้องรู้ทันมันและรู้จักวิธีที่จะถนอมพลังชีวิตนั้นเอาไว้ เหมือนดังที่เคยเขียนไว้ในตอนก่อนๆ และในบางจัวหวะถนอนอย่างเดียวไม่พออาจต้องขอให้ท่านหาจังหวะ “ชาร์จ” พลังชีวิตให้กับตัวเองด้วย จะช่วยให้ชีวิตไม่ “เปลี่ยนเร็ว”
เพิ่มพลังชีวิตพิชิตแก่
วิธีที่จะชาร์ตแบเตอรีแห่งชีวิตต้องเริ่มจากดูวิถีชีวิตของตัวเราเองก่อน เป็นต้นว่าถ้าต้องนอนดึกแบบไม่เป็นเวลาท่านก็คงต้องหาวิธีที่ช่วยให้สมองได้พักผ่อนเต็มที่ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเทคนิคที่หามานี้รับรองว่า ซุปไก่ยังไม่เท่า เครื่องดื่มชูกำลังชิดซ้าย
1. บีบแขนและเคาะหัว ฟังดูตลกเล็กๆ นะคะ แต่ว่าเป็นเรื่องจริงที่มีการศึกษามาแล้วจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนว่าได้ผล โดยคนที่ทำถูกวิธีจะให้ผลกระตุ้นได้เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟแก้วหนึ่งเลยทีเดียว วิธีทำง่ายๆ คือ กำมืองอนิ้วแล้วเคาะที่กระหม่อมตัวเองเบาๆ คล้ายกับเขกศีรษะนั่นเองค่ะ ส่วนการบีบมือก็คือให้บีบที่ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ซึ่งที่จุดดังกล่าวนี้เป็นจุดสำคัญที่คล้ายกับการฝั่งเข็มคะ
2. สตาร์ทเครื่องให้สมอง โดยการตื่นให้เช้าหน่อยค่ะแล้วพาตัวเองไปอาบแดดอ่อนๆ ตอน 6-7 โมงเช้าสัก 15 นาที เพราะจะทำให้ต่อมสมองมีการทำงานและช่วยในการสร้างวิตามินดีซึ่งจำเป็นสำหรับพลังอารมณ์ค่ะ จะทำให้ท่านรู้สึกตื่นตัวขึ้นและทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงไปทั้งวัน
3. เติมน้ำให้ร่างกาย ท่านทราบไหมว่าคนเราขาดน้ำแค่ 2.6% ของร่างกายก็ทำให้เกิดอาการอ่อนล้าหงุดหงิดได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า
จากการศึกษาในอาสาสมัครพบว่า กลุ่มที่ขาดน้ำทำงานที่ใช้สมองได้ยากกว่ากลุ่มที่ได้ดื่มน้ำอย่างพอเพียงมาก ดังนั้น แค่ขอน้ำเปล่าสัก 2 ลิตรตั้งไว้หน้าโต๊ะทำงานและรับประทานให้หมดในแต่ละวันคงไม่ยากไปสำหรับสมองของเรานะคะ
4. ล้างหน้าให้สดชื่น เป็นวิธีที่ได้ผลทั้งในความเชื่อที่ผ่านมาและการศึกษาโดยให้อาสาสมัครที่งีบไป 20 นาทีได้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ปรากฏว่าเรียกความสดชื่นและตื่นตัวขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าท่านล้างหน้าได้ถูกจังหวะก็จะเหมือนการปลุกเข้าไปถึงสมองให้กะปรี้กะเปร่าขึ้นมาด้วย ท่านที่ไม่สะดวกลุกไปล้างหน้าบ่อยก็อาจใช้ผ้าเย็นซับที่ใต้คอและหลังคอก็สดชื่นได้ไม่แพ้กัน
การชาร์จแบตเตอรีชีวิตทั้งหมดที่ว่ามานี้ขอให้ทำ “ถูกจังหวะ” และที่สำคัญคือ “มีวินัย” ในการหมั่นทำ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่านเสมือนกับได้เติมพลังอย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
หลายคนมาถามดิฉันถึงเรื่องการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นร่างกาย ทั้งที่จริงแล้วการออกกำลังกายไม่เหมาะก็กลับทำให้พลังชีวิตเสื่อมลงได้ค่ะ เหมือนอย่างนักกีฬาที่ฝึกซ้อมหนักจนเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อหายกลายเป็นขยาดการออกกำลัง เกิดความรู้สึกเบื่อไม่มีความกระตือรือร้นในการฝึกต่อได้
เช่นเดียวกับชีวิตที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสชีวิต งานเครียดก็ปล่อยตัวให้เครียดไป นอนดึกก็ปล่อยไปตามสบายเช่นนั้น หรือใครที่รักการสังสันทน์ก็ใช้ชีวิตเป็นปาร์ตี้บอยทุกคืน แม้จะรู้สึกไม่ฝืนเพราะปล่อยไปตามกระแส แต่นั่นจะฉกฉวยพลังชีวิตใน.
หากใครเหนื่อยหลังจากพักร้อนเชิญมาชาร์จพลังตามเทคนิคที่แนะนำกันดูนะคะ สวัสดีค่ะ ^/\^
ขอขอบคุณ
๐ ดร.กรุณา นนทรักส์. (2556, 2 มิถุนายน). เอ็กเซอร์ไซส์อะคาเดมี: ชาร์จแบตเตอรีชีวิต. กายใจ กรุงเทพธุรกิจ, หน้า 11
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)