วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หัวใจและหลอดเลือด

สวัสดีคะ ^/\^ เมื่ออายุที่มากขึ้นต้องยิ่งดูแลหัวใจกันให้ดีๆ เพราะในขณะที่นอนหลับหัวใจยังเป็นอวัยวะที่ทำงานโดยตลอด

โรคภัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือดมีความเกี่ยวเนื่องกับโรคหัวใจทั้งสิ้น รวมทั้งสภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และภาวะอุดตันของหลอดเลือด สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคหัวใจนั้นเกิดจากปัญหาการไหลเวียนของโลหิตที่กล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ

ส่วนคนอ้วนก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้เนื่องจากมีระดับคลอเรสเตอรอลสูง (ไขมัน แอลดีแอล-ไขมันชนิดไม่ดี), โรคเบาหวาน, และโรคความดันโลหิตสูง

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติจะช่วยลดการเกิดภาวะโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดอุดตัน การมีโภชนาการที่ถูกหลัก รวมถึงวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันโรคได้ พร้อมทั้งทำให้ผนังหลอดโลหิตแดงแข็งแรง และทำให้ลดไขมันในหลอดเลือด ลดคลอเรสเตอรอล และทำให้ฮอร์โมนมีภาวะสมบูรณ์ และอื่นๆอีกมากมาย


การป้องกันโรคหัวใจให้ได้ผลดียิ่งขึ้นนั้นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เริ่มด้วยการลดของมัน ของทอด แอลกอฮอล์ และหันมาเพิ่มปริมาณของผัก ผลไม้ ปลา การออกกำลังกาย การนอนหลับที่มีคุณภาพ (การนอนหลับที่มีคุณภาพ คือ การเข้านอนก่อนเที่ยงคืน หลับครบ 8 ชั่วโมง และขณะที่หลับไม่มีความคิดหรือฝันไปรบกวนการนอน)

เพียงปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตก็สามารถถนอมหัวใจของคุณมากยิ่งขึ้น สวัสดีคะ ^/\^

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โอเมก้า 3 ดีเอชเอ น้ำมันปลาพริเมี่ยม (Omega 3 DHA Fish Oil Primium)

สวัสดีคะ ^/\^ โพสต์ที่แล้วได้เล่าสู่กันฟังของ โอเมก้า 3 ดีเอชเอ น้ำมันปลา มินิ 500 มิลลิกรัม ครั้งนี้มาบอกเล่าน้ำมันปลาสูตรที่ 3 กันคะ ซึ่งโดดเด่นในการต้านสารอนุมูลอิสระ, มะเร็ง, บำรุงผิวพรรณคะ

โอเมก้า3 ดีเอชเอ น้ำมันปลาพริเมี่ยม มีส่วนผสมดังเช่นโอเมก้า 3 ดีเอชเอ น้ำมันปลา 1000 มิลลิกรัมรวมกับส่วนผสมสำคัญจากธรรมชาติสองชนิดได้แก่ สารสกัดเชิงซ้อนไลโคปีนจากน้ำมะเขือเทศและแอสตาแซนธินจากสาหร่าย จึงทำให้โอเมก้า3 ดีเอชเอ น้ำมันปลาพริเมี่ยมมีคุณสมบัติเด่นในการต้านสารอนุมูลอิสระ

โอเมก้า 3 ดีเอชเอ น้ำมันปลา 1000 มิลลิกรัม
โอเมก้า3 ดีเอชเอ น้ำมันปลาพริเมี่ยม

จากรายงานการทดลองพบว่าสามารถป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ลำไส้ ตับ ต่อมลูกหมาก และเต้านม เป็นต้น ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ก่อนเวลาอันควรได้ถึงระดับ DNA (Aging Process) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้คุณดูดีจากภายในสุ่ภายนอกและป้องกันการถูกทำร้ายของผิวจากรังสี UV

เพิ่มเติม | สั่งซื้อ

ในเดือนพฤษภาคมนี้มีโปรโมชั่นสั่งซื้อน้ำมันปลาพริเมี่ยม 2 ขวดแถม 1 ขวด สวัสดีคะ ^/\^

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไลโคปีน (Lycopene) กับลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

สวัสดีคะ ^/\^ มะเร็งจัดเป็นโรคที่น่ากลัวอันดับต้นๆ ในบรรดาปัญหาสุขภาพ หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังสงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง มีความเสี่ยงเริ่มเป็นหรือเป็นมะเร็งแล้วอาจเกิดความกังวลต่างๆ นานา ควรพยายามทำใจให้เป็นปกติ มีสติที่จะดูแลตัวเองและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอ เพราะปัจจุบันโรคมะเร็งสามารถรักษาให้หายได้

อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง คืออาหารประเภทข้าว แป้งที่ไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา สันในไก่ อกไก่ และผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอ เพราะเส้นใยมีประโยชน์ในการไปจับสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) แล้วขับออกทางปัสสาวะ ที่สำคัญคือควรดื่มน้ำมากๆ

ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคือเนื้อแปรรูป เช่น หมูบด เนื้อสะโพก ไส้กรอง และโดยเฉพาะอาหารที่ผ่านน้ำมันทอดซ้ำที่เป็นแหล่งของอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง จากการวิจัยพบว่าวิตามินหลากหลายชนิดในผักและผลไม้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ให้ผลป้องกัน และจับอนุมูอิสระที่เป็นสาเหตุของมะเร็งได้ดี

โอเมก้า 3 ดีเอชเอ น้ำมันปลาพริเมี่ยม

ทำความรู้จักกับสารไลโคปีน (Lycopene)

ไลโคปีน จัดเป็นสารในกลุ่มของแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่พบกระจายอยู่ทั่วไปในร่างกาย แต่เนื่องจากร่างกายมนุษญ์ไม่สามารถสังเคราะห์แคโรทีนอยด์ขึ้นเองได จึงจำเป็นต้องได้รับจากการบริโภค ส่วนใหญ่แล้วไลโคปีนที่เรารับประทานกัน (55%) ได้มาจากผลของมะเขือเทศรวมทั้งผลิตภัณฑ์จากมะเขื่อเทศ และยังพบได้จากผลไม้อื่นๆ หลายชนิด ได้แก่ แตงโม ฝรั่ง มะละกอ และพืชพวกส้ม

จากการศึกษาถึงประสิทธิภาพในการต้านมะเร็งของสารไลโคปีนอยู่หลายงาน ยกตัวอย่างเช่น
  • การรับประทานอาหารที่มีไลโคปีนสูงสามารถเพิ่มปริมาณไลโคปีนในเลือด และส่งผลลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไป
  • ไลโคปีนอาจมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซซล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะG1) และไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  • การรับประทานมะเขือเทศในอัตราสูงจะช่วยลดอัตราการเป็นโรคมะร็งต่อมลูกหมากทุกประเภทได้ถึง 35% และลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก 53%
  • สารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน 30 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไขภายหลังจากการรักษาโรคมาแล้ว 3 สัปดาห์
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไม่มองข้ามอาการหวัดเล็กๆ น้อยๆ นะคะ สวัสดีคะ ^/\^