หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

12 Years a Slave (2013) ปลดแอก คนย่ำคน

เรื่องย่อ:
     ว่าด้วยเรื่องราวอิสระชนของโซโลมอน ผู้ต้องพบเจอกับความโหดร้ายอย่างที่สุดเมื่อถูกขายเป็นทาส ตลอดช่วงเวลา 12 ปี เขาไม่ได้แค่ต้องพยายามเอาชีวิตรอดท่ามกลางการปฏิบัติราวกับไม่ใช่คนเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้ก่อนจะไม่เหลืออะไรเลย จนกระทั่งได้พบกับผู้รณรงค์การปลดปล่อยทาสชาวแคนาดาที่ทำให้ชีวิตอิสระชนของเขากลับมาอีกครั้ง

ความคิดเห็น:
     หนังเรื่องนี้มาจากเรื่องจริงของ โซโลมอน เมื่อดูหนังเรื่องนี้แล้วคุณอาจจะไม่คาดคิดว่า ณ สมัยนั้นการทารุณกรรมทาสจะโหดร้ายขนาดนี้ และยิ่งเมื่ออิสระชนถูกยัดเยียดความเป็นทาสให้ก็เสียความรู้สึกมากพอแล้ว นับว่าเขายังมีบุญที่ได้กลับมาเป็นอิสระชนอีกครั้งและไม่นิ่งเฉยที่จะช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

Product Details:
  • Genres: Drama
  • Director: Steve McQueen
  • Starring: Chiwetel Ejiofor, Dwight Henry
  • Supporting actors: Dickie Gravois, Bryan Batt, Ashley Dyke, Kelsey Scott, Quvenzhané Wallis, Cameron Zeigler, Tony Bentley, Scoot McNairy, Taran Killam, Christopher Berry, Bill Camp, Mister Mackey Jr., Chris Chalk, Craig Tate, Adepero Oduye, Storm Reid, Tom Proctor, Marc Macaulay
  • Studio: Fox
  • MPAA rating: R (Restricted)

Editorial Reviews:
     Product Description
     From acclaimed director Steve McQueen comes this "deeply evocative and brilliantly acted" film (Claudia Puig, USA Today) based on the true story of Solomon Northup. It is 1841, and Northup (Chiwetel Ejiofor in a gripping performance), an accomplished, free citizen of New York, is kidnapped and sold into slavery. Stripped of his identity and deprived of all dignity, Northup is ultimately purchased by ruthless plantation owner Edwin Epps (Michael Fassbender) and must find the strength within to survive. Filled with powerful performances by an astonishing cast that includes Benedict Cumberbatch, Brad Pitt and newcomer Lupita Nyong'o, 12 Years A Slave is both an unflinching account of slavery in American history and a celebration of the indomitable power of hope.

     Amazon.com
     Maybe it had to take a British filmmaker to depict clearly the United States' greatest failing: the horrors of centuries of slavery. In 12 Years a Slave, Solomon Northup (Chiwetel Ejiofor, Kinky Boots, Dirty Pretty Things) is a free man living in New York until he's kidnapped and sold in Louisiana as a slave. He's owned by masters relatively kind (Benedict Cumberbatch) and harrowingly brutal (Michael Fassbender), but even under the best conditions, the movie never loses sight of Northup's condition as property, that his well-being and very life are at the whim of his owners. There's no hype here, nor any hemming or hawing; each scene is captured simply but vividly, letting the cruel facts of life in the pre-Civil War era speak for themselves. The movie's power lies in the unsettling details and psychological contortions slavery inflicts on everyone involved, black and white. Performances are fantastic throughout, including supporting work from Paul Dano, Paul Giamatti, Sarah Paulson, Lupita Nyong'o, Brad Pitt, and particularly Alfre Woodard as a slave who's gained a position of comfort and clings to it with haughty entitlement. But it's Ejiofor who anchors the movie; his mix of intelligence and fundamental decency carries 12 Years a Slave to a moving conclusion. From Steve McQueen, director of Hunger and Shame. --Bret Fetzer

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Hunger Games: MOCKINGJAY Part 1 (2014)

เรื่องย่อ:
     ภายหลังจากการแข่งขันอันเข้มข้นใน Quarter Quell ครั้งล่าสุด ที่สาวน้อยผู้มากับไฟ แคทนิส เอเวอร์ดีน ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงขึ้นและมันได้นำมาซึ่งจุดเริ่มต้นของสงครามที่แท้จริง ที่เธอจะไม่ยอมสยบต่อแคปิตอลอีกต่อไป
     โดยมีแคทนิสในฐานะสัญลักษณ์ของ ม็อคกิ้งเจย์ จะเป็นผู้นำในการลุกขึ้นต่อต้านครั้งนี้ร่วมกับ เกล เพื่อนรักจากเขต 12, ฟินนิค เพื่อนร่วมเกมจาก Quarter Quell และพลูตาร์ช เกมเมคเกอร์ที่ขอหักหลังแคปิตอล
     แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อชายหนุ่มที่เคยต่อสู้เคียงข้างเธออย่างพีต้า เมลลาร์คต้องถูกแคปิตอลจับเป็นตัวประกัน และประธานาธิบดีสโนว์ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีกต่อไปในสงครามครั้งนี้ แคทนิส หรือ แคปิตอล ใครจะกุมชะตาแห่งพาเน็ม

ความคิดเห็น:
     ยอมรับว่าเริ่มแรกไม่ได้สนใจหนังเรื่องนี้เลย เห็นมีกระแสกันนักขอดูหน่อยละกัน เมื่อได้ดูเท่านั้นละคุณเอ๋ย... เนื้อเรื่องช่างดึงดููด จินตนาการช่างล้ำ (ขออย่าให้เกิดขึ้นจริงในโลกนี้) ร่วมลุ้นความรักไปกับตัวละครรวมถึงบทสรุปของภาพยนต์เรื่องนี้
     THE HUNGER GAMES : MOCKINGJAY Part 2 เข้า 19 พ.ย.2558 นี้แล้วน่ะค่ะ

Product Details:
  • Genres: Science Fiction, Thriller, Adventure
  • Director: Francis Lawrence
  • Starring: Jennifer Lawrence, Josh Hutcherson
  • Supporting actors: Liam Hemsworth, Woody Harrelson, Donald Sutherland, Philip Seymour Hoffman, Julianne Moore, Willow Shields, Sam Claflin, Elizabeth Banks, Mahershala Ali, Jena Malone,Jeffrey Wright, Paula Malcomson, Stanley Tucci, Natalie Dormer, Evan Ross, Elden Henson, Wes Chatham, Sarita Choudhury
  • Studio: Lionsgate
  • MPAA rating: PG-13 (Parental Guidance Suggested)

Synopsis:
     The worldwide phenomenon of The Hunger Games continues to set the world on fire with The Hunger Games: Mockingjay - Part 1, which finds Katniss Everdeen (Jennifer Lawrence) in District 13 after she literally shatters the games forever

THE HUNGER GAMES (2012)
THE HUNGER GAMES
CATCHING FIRE (2013)

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เศร้า ซึมลึก คึก เสี่ยง ‘ไบโพลาร์’

     ถ้าหากเราต้องเผชิญหน้ากับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์แปรปรวนใส่เรา เราคงรับมือหรือ ทำตัวไม่ถูก เดี๋ยวก็คึกคักสดใสร่าเริง เดี๋ยวก็เศร้าเก็บตัว เรียกว่าตามอารมณ์ไม่ถูกเลยทีเดียว
     อาการอย่างนี้อย่ามองข้าม เพราะบางทีอาจจะเป็นโรคไบโพลาร์ก็ได้ หากไม่ได้รับการรักษาหรือบำบัดจะทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตและครอบครัว รวมถึงคนรอบข้างได้เช่นกัน

     เมื่อพูดถึง "อารมณ์แปรปรวน" เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับคนใกล้ตัว รวมถึงสมาชิกในบ้าน เพราะเป็นอารมณ์ 2 ขั้ว มีทั้งขึ้นและลง จนบางครั้งเดาใจไม่ถูกว่าช่วงไหนดีหรือช่วงไหนร้าย ยิ่งสมัยนี้แล้วหลายๆ ครอบครัวต้องพบเจอกับภาวะกดดันรอบด้าน อาจนำไปสู่โรคทางอารมณ์ที่รุนแรงได้ง่าย

     ‘โรคไบโพลาร์’ ที่ว่านี้ ทางการแพทย์ถือว่าเป็นโรคทางจิตเวชที่ส่งผลให้อารมณ์ขึ้นลงผิดปรกติ คือสุขมากเกินไปจนเข้าข่ายคึกคักและทุกข์มากเกินไปจนเข้าข่ายซึมเศร้า ซึ่งไม่ได้หมายถึงอารมณ์โกรธ เสียใจ แต่หมายถึงการแสดงออก สีหน้าพฤติกรรมที่เกิดจากมุมมองต่อตนเอง ผู้อื่น สิ่งแวดล้อม และมุมมองต่ออนาคต

     ด้านลักษณะการแปรปรวนของอารมณ์นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 ขั้ว ได้แก่ "ขั้วสุข" ส่วนใหญ่จะมีอาการครื้นเครง ก้าวร้าว เห็นคนอื่นแล้วไม่ถูกใจไปหมด ตัวเองถูกอยู่คนเดียว พูดมาก นั่งไม่นิ่ง มีพลังทางเพศสูง ความมั่นใจตัวเองสูง ความคิดบรรเจิด ตัดสินใจเร็ว ทำให้การยับยั้งชั่งใจไม่ค่อยดี ดังนั้น คนกลุ่มนี้จะมีความคิดเยอะมาก บางคนถึงขนาดกู้หนี้ยืมสิน ไม่มีสมาธิ เนื่องจากความคิดวิ่งเร็วมาก อาจเปลี่ยนจากสิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งหนึ่งอย่างฉับพลัน

     ส่วน "ขั้วทุกข์" นั้นจะมีลักษณะซึมเศร้า หดหู่ ท้อแท้ เบื่อหน่ายกับชีวิต เฉยชา หงุดหงิด กังวล กินข้าวมื้อนี้ก็จะกังวลไปถึงมื้อหน้า นอนไม่หลับ ไม่ค่อยเจริญอาหาร ไม่มีแรง รู้สึกไม่สบายต่างๆ นานา หรือชอบคิดว่าตัวเองเป็นโรคนั้นโรคนี้ รวมทั้งรู้สึกผิดกับตัวเองอยู่เสมอ

     คนที่เป็นไบโพลาร์บางคนอาจจะบอกว่า ความคิดมันวนเวียน ได้ยินเสียงข้างๆ หูเรื่อยๆ สมมุติเอาสตางค์แม่ไปตอนเด็ก 50 บาท ก็จะรู้สึกผิดมาก รู้สึกว่าจะต้องชดใช้กรรมตัวนี้ หนักๆ เข้าอาจเกิดความรู้สึกอยากตาย คนกลุ่มนี้จะไม่มีสมาธิ สมองไม่ทำงาน หลายคนเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังซึมเศร้า แต่มาหาหมอเพราะว่าทำงานไม่ได้ ไม่มีสมาธิ แล้วก็เฉื่อยชา เปรียบเหมือนไฟตก แบตเตอรี่ไม่มี ไฟก็จะอ่อนลง หรี่ลงเรื่อยๆ

     ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเป็นไบโพลาร์ มีอยู่ด้วยกัน 4 ข้อหลัก คือ 1. มีญาติพี่น้องที่ป่วยหรือเคยเป็นโรคไบโพลาร์ 2. คนที่มีความเครียดสูง 3. คนที่ติดยาหรือมีการใช้สารเสพติด และ 4. บุคคลที่เกิดวิกฤตขึ้นในชีวิต นอกจากนั้นยังเป็นโรคที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมได้ด้วย เช่น หากมีลูกฝาแฝด ถ้าพ่อแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภาวะนี้ ลูกมีโอกาสเป็น 10% หากแฝดไข่ใบเดียว คนหนึ่งเป็น อีกคนมีโอกาสเป็นได้ถึง 90% แต่ถ้าแฝดไข่ 2 ใบ คนหนึ่งเป็น อีกคนมีโอกาสเป็นถึง 10-25% นอกจากนี้ยีนยังเป็นตัวสร้างรหัสที่ควบคุมปฏิกิริยาการตอบสนอง เพราะฉะนั้นคนที่มียีนผิดปกติจะทำให้มีความไวต่อสิ่งที่มากระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้าได้เร็วขึ้น

     สำหรับการดำเนินของโรคนั้น จะมีลักษณะอารมณ์ขึ้นลงกลับไปกลับมา บางคนมีขึ้นอย่างเดียวแล้วก็ลงมาปรกติแล้วก็ขึ้นใหม่ บางคนโชคร้ายหน่อย คือมีทั้ง 2 อย่างเลย โดยระยะเวลาที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้น บางคนโชคดีอาจจะถึง 5 ปี 10 ปี ขณะที่บางคนเพียง 1-2 อาทิตย์ หรือไม่ถึงหนึ่งเดือนก็กลับมาเป็นอีก พูดง่ายๆ ว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หรือ เศร้าซึมลึก คึกหลุดโลกนั่นเอง

     ใครที่มีอาการดังกล่าวหรือคนรอบข้าง คนใกล้ตัว เข้าข่ายลักษณะที่ว่านี้ ควรไปพบจิตแพทย์ เมื่อได้รับการรักษาหรือปรับระดับสารเคมีบางอย่างด้วยยาแล้ว ควรให้ความเคร่งครัดเรื่องการใช้ยาทุกชนิด รวมถึงอาหารเสริม และหมั่นสังเกตอาการต่างๆ ที่เข้าข่ายของโรค นอกจากนั้นการรับประทานยารักษาโรคอื่นๆ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพราะยาบางตัวอาจมีผลต่อระดับสารเคมีในสมองได้ หากใครมีความเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าว หรือเริ่มมีอาการแล้ว สามารถรับมือกับไบโพลาร์ได้ดังนี้
     1. ศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด เวลา และสร้างเป้าหมายในชีวิต
     2. รับกำลังใจจากคนใกล้ชิด และใช้เวลาทำกิจกรรมนันทนาการอยู่บ่อยๆ
     3. เน้นการฝึกผ่อนคลาย ลดความเครียด เพราะเป็นวิธีที่ทำให้จัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น  โดยหลักการจะคล้ายกับการนั่งสมาธิ แต่ไม่ได้เน้นว่าต้องนั่งสมาธิ เพราะสมาธิเราเน้นความสงบ แต่ฝึกผ่อนคลาย จะเน้นเรื่องสบายเนื้อสบายตัว เพราะเวลามีภาวะตึงเครียดร่างกายจะ ตอบสนองไปที่กล้ามเนื้อ ทำให้มีการเกร็งตัว การฝึกผ่อนคลายจะทำให้ลดอาการนั้นลงไปได้
     4. ควรฝึกในเรื่องความอดทน ยับยั้งชั่งใจ เพราะหากเกิดอาการคึกคะนองจะสามารถ ควบคุมไม่ให้ทำสิ่งที่รุนแรงได้

     นอกจากนั้นยังมีวิธีการรักษาด้วยการบำบัด เช่น จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด กลุ่มบำบัด และครอบครัวบำบัด โดยแพทย์จะให้ความมั่นใจกับผู้ป่วยว่าถ้าหากมีวินัยในการรักษา และรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติ แต่ในบางท่านที่มีอาการหนักก็อาจต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นพิเศษ

     "โรคไบโพลาร์ ทางการแพทย์ถือว่า เป็นโรคทางจิตเวช ที่ส่งผลให้อารมณ์ขึ้นลงผิดปกติ  คือสุขมากเกินไปจนเข้าข่ายคึกคัก ทุกข์เกินไปจนเข้าข่ายซึมเศร้า ซึ่งไม่ได้หมายถึงอารมณ์โกรธ เสียใจ แต่หมายถึงการแสดงออก"

ขอขอบคุณ:
  • หนังสือพิมพ์โลกวันนี้วันสุข โดย นพ.โกวิทย์ นพพร