การกินเจ เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9 วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนมานานแล้ว โดยมีตำนานเล่าขานกันหลายตำนาน ท่านใดสนใจสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่
สารอาหารประเภทโปรตีนสามารถหาทดแทนได้จากแหล่งโปรตีนจากพืช อาทิ เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ธัญพืช จริงอยู่ที่ว่า โปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนคุณภาพดีให้กรดอะมิโนครบถ้วน ส่วนโปรตีนที่ได้จากพืชจะขาดกรดอะมิโนบางตัวไป แต่เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาอะไรกับร่างกาย หากเรากินแบบผสมผสานก็สามารถทดแทนโปรตีนที่ขาดหายไปได้ เช่น การกินเต้าหู้ควบคู่กับถั่วเขียว ถั่วแดง ข้าวบาเร่ ลูกเดือย เป็นต้น
กินเจไม่อยู่ท้อง จึงควรกินมื้อหลัก 3 มื้อและเติมมื้อว่าง 2 มื้อ
หิวบ่อย! เพราะสารอาหารโปรตีนจากพืชย่อยง่ายและย่อยเร็ว จึงควรเติมพลังงานเล็กน้อยเป็นมื้อว่างระหว่างวัน นับถัดจากมื้อหลัก 2 ชั่วโมง ในมื้อเช้าและเที่ยงด้วยเมนูเต้าหู้ทอด หรือนมถั่วเหลือง เมนูถั่วต่างๆ หรือธัญพืชคลุกรวมที่ให้กากใยสูง ทั้งนี้ให้ควบคุมอาหารมื้อว่างในปริมาณไม่เกิน 200 กิโลแคลลอรี และควบคุมความสมดุลของอาหารที่กินแต่ละประเภทไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป
นอกจากนี้ หากก่อนนอนช่วง 1-2 ทุ่มเกิดอาการหิวอีก แนะนำให้กินนมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด น้ำงาดำ น้ำฟักทอง ในปริมาณไม่เกิน 200–250 ซีซีต่อครั้ง
กินเจให้เหมาะสมกับช่วงวัย
แน่นอนว่ากิจกรรมที่ทำระหว่างวันของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปตามช่วงวัย โภชนาการที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ให้แนะนำการกินเจในกลุ่มคน 3 ช่วงวัย ได้แก่
วัยรุ่น เป็นวัยที่ต้องใช้พลังงานค่อนข้างมาก แนะนำให้กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วเขียว เผือก แทนข้าวขาวและของทอด โดยอาจเสริมอาหารระหว่างวัน เช่น นมถั่วเหลือง 2-3 กล่องระหว่างมื้อ เต้าหู้ทอดที่ผิวนอกกินกับซอสญี่ปุ่น
วัยทำงาน เป็นวัยที่ต้องใช้กำลังสมองมากและมักมีปัญหาเรื่องไม่ค่อยมีเวลา แนะนำให้กินนมถั่วเหลืองอุ่นแทนกาแฟ และเสริมมื้อว่างช่วงบ่ายด้วย งาขาวอัดแท่ง ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า หรือเมล็ดทานตะวัน ซึ่งมีโปรตีนและไขมันชนิดดีช่วยทำให้อยู่ท้องอีกทั้งการเคี้ยวยังช่วยในกระบวนการคิดในการทำงานดีขึ้นอีกด้วย
ผู้สูงอายุ ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือการกินผักผลไม้อาจทำให้บางคนเกิดอาการท้องอืด จึงควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีกากใยเยอะเกินไป รวมถึงหลีกเลี่ยงการกินผักสด เช่น กะหล่ำปลีสด ผักกาดหอมสด ดังนั้นควรนำมาปรุงให้สุกก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ในผู้สูงอายุบางรายการกินนมถั่วเหลืองก็อาจทำให้ท้องอืดได้เช่นกัน จึงแนะนำให้กินน้ำธัญพืช เช่น น้ำงาดำ น้ำลูกเดือย เป็นต้นแทน
โดยปกติแล้วที่ผู้สูงอายุค่อนข้างกินได้น้อยกว่าความต้องการ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารได้ จึงแนะนำเป็นอาหารนิ่มๆ เช่น ผัดเต้าหู้สามรส จับฉ่ายเห็ดหอมเต้าหู้ เต้าหู้ผัดเปรี้ยวหวานสับปะรด โดยเอนไซม์จากสับปะรดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารให้ดีขึ้น และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
กินเจไม่อ้วนอย่างที่คิด ต้องระวังเรื่องน้ำมัน
หากลองสำรวจดูจะพบว่า อาหารเจสำเร็จที่วางขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทไขมันสูงหนักแป้ง และมักปรุงด้วยกรรมวิธีการทอดและผัด “น้ำมัน” จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรระมัดระวัง
ส่วนมากร้านค้าทั่วไปจะใช้น้ำมันปาล์มซึ่งเป็นน้ำมันอิ่มตัวทำให้มีปํญหาเรื่องคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง หากมีโอกาสปรุงอาหารเองที่บ้านควรใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันรำข้าวปรุงอาหารในปริมาณที่เหมาะสม แนะนำเมนูเจง่ายๆ แต่ให้ประโยชน์ อย่าง ข้าวหุงธัญพืช เต้าหู้เย็นราดซอสญี่ปุ่น ต้มยำเห็ดฟาง เต้าตู้ผัดสามรส
รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวชนิดธัญพืช เช่น งาดำ งาขาว ถั่วต่างๆ ก็จะมีน้ำมันที่เป็นไขมันดีอยู่แล้ว จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้ไขมันส่วนเกิน
ท่านใดต้องการอ่านแบบฉบับสมบูรณ์คลิกที่นี่คะ สวัสดีคะ ^/\^
ขอขอบคุณ:
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น